สถานที่ขอเลขเด็ด สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทย

ศาลแม่นาคพระโขนง ณ วัดมหาบุศย์

ขอพรความรัก แม่นาค พระโขนง วัดมหาบุศย์ ใคร ๆ ต่างก็รู้จักตำนานความรักอันบริสุทธิ์และมั่นคงของแม่นาคพระโขนงที่มีต่อพ่อมาก กลายเป็นหนึ่งในเรื่องราวความรักอันยิ่งใหญ่ มีการนำมาถ่ายทอดในรูปแบบของภาพยนตร์ ละคร หลายรุ่น และกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ขอพรศักดิ์สิทธิ์ของวัดมหาบุศย์ที่มีผู้คนมากราบไหว้อย่างไม่ขาดสาย

วัดมหาบุศย์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า วัดแม่นาคพระโขนง เพราะมีศาลแม่นาคตั้งอยู่ภายในวัด ในอดีตเล่ากันว่า วัดมหาบุศย์ เป็นวัดราษฎร์ที่เก่าแก่ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2305 ในสมัยอยุธยาตอนปลาย โดยพระมหาบุตรวัดเลียบ (วัดราชบูรณะ) ที่ได้เดินทางมาเยี่ยมญาติโยมของท่านในคลองพระโขนง ชาวบ้านรู้ข่าวจึงได้นิมนต์ให้ท่านจำพรรษาอยู่ที่นี่ และสร้างวัดขึ้นโดยให้ชื่อว่า “วัดมหาบุศย์” ตามชื่อของท่าน

ตำนานรักของแม่นาคพระโขนง

ศาลแม่นาค หรือ ย่านาค จะอยู่ท้ายวัด เดินตรงเข้ามาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับรูปปั้นของแม่นาคอยู่หน้าศาล ตามความเชื่อ เดิมทีแม่นาคเป็นคนบางจาก แล้วได้มาแต่งงานกับพ่อมาก คนคลองพระโขนง อยู่กินกันจนพ่อมากถูกเกณฑ์ทหาร แม่นาคอยู่จนครบกำหนดคลอด หมอตำแยจึงมาทำคลอดให้ แต่ลูกของแม่นาคไม่ยอมกลับหัว จึงไม่สามารถคลอดออกมาตามธรรมชาติ ทำให้แม่นาคเจ็บปวด และในที่สุดก็ทนความเจ็บปวดไว้ไม่ไหว สิ้นใจไปพร้อมกับลูกในท้อง กลายเป็นผีตายทั้งกลม

หลังจากนั้น ศพของแม่นาคได้ถูกนำไปฝังไว้ยังป่าช้าท้ายวัดมหาบุศย์ ส่วนพ่อมากเมื่อปลดประจำการแล้วกลับมายังพระโขนงโดยที่ยังไม่ทราบว่าแม่นาคเสียชีวิตแล้ว เมื่อกลับมาอยู่บ้าน แม่นาคก็คอยพยายามรั้งให้อยู่ที่บ้านตลอดเวลา ไม่ให้ออกไปพบใคร เพราะกลัวว่าพ่อมากจะรู้ความจริงจากชาวบ้าน จนวันหนึ่งพ่อมากผ่านมาเห็นแม่นาคเอื้อมมือเก็บมะนาวที่อยู่ใต้ถุนบ้าน จึงปักใจเชื่อว่าเมียตัวเองเป็นผีตามที่ชาวบ้านว่ากัน

ในที่สุดแม่นาคก็ถูกหมอผีฝีมือดีจับใส่หม้อถ่วงน้ำ จึงสงบไปได้พักใหญ่ และถูกสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สยบลงด้วย กะโหลกศีรษะส่วนหน้าผากของแม่นาคถูกเคาะออกมาทำหัวปั้นเหน่ง เพื่อเป็นการสะกดวิญญาณ และนำแม่นาคสู่สุคติ

ศาลย่านาค

บนศาลของย่านาค มีของใช้มากมาย เช่น ชุดไทยสีสด ของเล่นเด็ก บ้านเรือนไทยจำลอง ที่ผู้คนต่างนำมากราบไหว้บนบาน ทั้งคนไทยและต่างชาติ รวมถึงเงินที่วางอยู่บริเวณหน้าตักของย่านาค เป็นที่ที่ทุกคนต้องมากราบไหว้หากมาที่วัดมหาบุตรแล้ว เป็น สถานที่ขอโชคลาภ อีกที่หนึ่งที่คอหวยนิยมมาขอเลขประจำ “หวยเป็นเกมเสี่ยงโชคที่สร้างทั้งรายได้ให้รัฐและความหวังรวยทางลัดให้ประชาชน แต่เราก็ต้องตระหนักถึงข้อเสีย มองให้รอบด้านก่อนลุ้นโชค ว่าคุ้มค่ากับโอกาสเสียเงินหรือไม่”[1]

ขอพรกับย่านาค

การขอพรกับย่านาค ส่วนใหญ่จะขอพรในเรื่องความรัก โชคลาภ ขอลูก เกณฑ์ทหาร หากมาบนเรื่องเกณฑ์ทหาร ทางศาลก็มีจัดเป็นชุดสำหรับบนไว้ ถ้าเป็นเรื่องโชคลาภขอหวย ก่อนวันหวยออก 1 วัน ทางวัดเปิดให้มาขอพรตลอดทั้งคืนเลย เป็น สถานที่ขอโชคลาภ ที่คนในกรุงเทพมหานครมาขอกันเยอะ หากจะมาแก้บนให้แจ้งเจ้าหน้าที่ของศาลก่อน สำหรับเรื่องการถ่ายภาพไม่อนุญาตให้ใช้กล้องและต้องได้รับอนุญาตจากทางเจ้าหน้าที่ด้วย

วิธีการขอพรย่านาค

ทางศาลมีชุดสำหรับไหว้ไว้ จุดธูป 2 ดอก เทียน 1 เล่ม เลือกพวงมาลัยหรือดอกไม้ จุดธูป เทียนด้านล่างของศาลแล้วถึงขึ้นไปแปะแผ่นทองที่ย่านาคด้านบน มีข้อห้ามสำหรับไหว้ย่านาค ดังนี้

• ห้ามปิดทองที่ใบหน้า ที่ดวงตา และริมฝีปาก
• ห้ามเทน้ำมันจันที่องค์ย่านาค ให้ปิดทองขอพรย่านาคที่ฝ่ามือ
• ห้ามพรมน้ำอบ และรดน้ำย่านาค

ทุกๆ วันที่ 20 ของเดือน ทางวัดมีจัดพิธีสวดพระอภิธรรมเสริมบารมีให้แก่ย่านาคพร้อมบริวาร

เดินออกมาบริเวณศาลย่านาค มีคลองพระโขนงให้อาหารปลา ปล่อยปลา ปล่อยเต่า ให้อาหารนก พร้อมบทสวดมนต์ เมื่อเดินมาริมน้ำทำให้นึกถึงคำพูดจากภาพยนตร์ที่รีเมคมาหลายรุ่น

เวลาเปิดทำการ : 07.30 – 17.30 น.

วัดป่าคำชะโนด

ตำนานคำชะโนด ถือเป็น สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขอโชคลาภ อีกแห่งที่คอหวยไปกราบไหว้เยอะ ถูกเล่าขานกันมาว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในดินแดนแถบหนองกระแสหรือหนองแส บริเวณประเทศลาว ดินแดนแห่งนี้เป็นที่อยู่ของพญานาคสองเผ่าพันธุ์ คือ พญาศรีสุทโธ และพญาสุวรรณนาค ทั้งสองฝ่ายต่างอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดความขัดแย้งขึ้นเกี่ยวกับการแบ่งสรรอาหาร ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหากันและกัน ว่าอีกฝ่ายเอาเปรียบ ไม่ยอมแบ่งให้อย่างเท่าเทียมกัน

ความขัดแย้งครั้งนี้ลุกลามจนกลายเป็นสงคราม ทั้งสองฝ่ายต่างต่อสู้กันอย่างดุเดือด จนทำให้พื้นโลกสะเทือน เกิดแผ่นดินไหว เดือดร้อนไปทั่วทั้งสามภพ พระอินทร์จึงลงมาไกล่เกลี่ย ตัดสินให้ทั้งสองฝ่ายหยุดรบ และหันมาช่วยกันสร้างแม่น้ำคนละสาย ใครสร้างถึงทะเลก่อนก็จะได้เป็นเจ้าของปลาบึก พญาศรีสุทโธสร้างแม่น้ำโขงเสร็จก่อน จึงขอพระอินทร์ให้เปิดทางขึ้นลงระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ไว้สามแห่ง คือ ที่ธาตุหลวงนครเวียงจันทน์ ที่หนองคันแท และที่คำชะโนด

คำชะโนด สถานที่ขอโชคลาภ ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นเกาะลอยน้ำที่เต็มไปด้วยต้นชะโนด ต้นชะโนดเป็นพืชที่มีลักษณะคล้ายต้นมะพร้าว ต้นหมาก และต้นตาลผสมกัน ชาวบ้านเชื่อว่าต้นชะโนดเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สิงสถิตของพญานาคราช นอกจากต้นชะโนดแล้ว ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ที่น่าสนใจที่คำชะโนด เช่น บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ สะพานปูนรูปปั้นพญานาค และรากต้นมะเดื่อยักษ์ จากข้อมูลที่นี่ https://www.britannica.com/topic/ceremonial-object/Objects-used-in-temple-state-and-private-ceremonies ได้กล่าวไว้ว่า เมื่อเวลาผ่านไป วัตถุพิธีกรรมอาจสูญเสียรูปลักษณ์ภายนอกไปบ้าง แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณค่าทางจิตใจ คุณค่าทางจิตใจของวัตถุพิธีกรรมคือความศักดิ์สิทธิ์และความผูกพันกับเทพเจ้า ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของวัตถุพิธีกรรมจะเปลี่ยนไป แต่คุณค่าทางจิตใจเหล่านี้ยังคงอยู่เสมอ

• บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นบ่อน้ำที่มีน้ำไหลมาจากใต้ดิน ระดับน้ำจะไม่เคยลดหรือเพิ่มเลย เชื่อกันว่าเป็นประตูเชื่อมไปสู่เมืองบาดาล
• สะพานปูนรูปปั้นพญานาค เป็นสะพานปูนที่มีรูปปั้นพญานาคอยู่สองตัว เชื่อกันว่าที่จุดกึ่งกลางสะพานจะเป็นรอยต่อระหว่างโลกมนุษย์กับบาดาล
• รากต้นมะเดื่อยักษ์ เป็นรากต้นมะเดื่อที่มีอายุกว่าร้อยปี เชื่อกันว่าใครมากราบไหว้จะได้โชคลาภด้านการเงินและการค้าขาย

ข้อห้ามเมื่อไปคำชะโนด

1. ห้ามจุดธูปเทียนบูชาในป่าคำชะโนด
2. ให้นำพานบายศรีหรือเครื่องเซ่นไหว้กลับ เพื่อเป็นการลดขยะ
3. ห้ามโยนเหรียญลงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
4. งดปล่อยปลาและสัตว์น้ำลงไปในแหล่งน้ำ
5. ห้ามผูกผ้าแพร 7 สี
6. ห้ามทาแป้งหรือขัดถูต้นไม้

การเดินทางไปคำชะโนด

สามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองอุดรธานี ไปตามทางหลวงหมายเลข 22 (อุดรธานี-สกลนคร) ขับตรงไปเรื่อยๆ เข้าสู่เทศบาลหนองเม็ก เมื่อเจอสี่แยกใหญ่ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 2096 ขับต่อไปอีก 9 กิโลเมตร เจอสามแยกบริเวณโรงเรียนบ้านนาโฮง ให้เลี้ยวซ้าย ก็จะเจอสำนักสงฆ์คำชะโนด

เวลาเปิด-ปิด

เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.

ความเชื่อ

คำชะโนดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมไปสักการะขอพร โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ เงินทอง ค้าขาย และความสำเร็จ

วัดทับกระดาน หรือที่เรียกกันว่า วัดพุ่มพวง เป็นวัดดังแห่งจังหวัดสุพรรณบุรี นอกจากจะเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านแล้ว ยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจอีกด้วย

ประวัติความเป็นมา

วัดทับกระดานเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2476 โดยชาวบ้านในตำบลบ่อสุพรรณ นำโดย ปู่บุญ ดอกไม้หอม และ ปู่เสาร์ โภคา ร่วมกันสร้างวัดบนเนื้อที่ 10 ไร่ ตั้งชื่อว่า “วัดทับกระดาน” ตามชื่อของหมู่บ้าน แต่ต่อมาเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้วัดต้องย้ายที่ตั้งไปยังพื้นที่ปัจจุบัน ต่อมาในปี พ.ศ. 2490 หลวงพ่อบวช ตุลายโก ซึ่งเป็นบุตรของปู่บุญ ดอกไม้หอม ได้เข้ามาพัฒนาวัดและเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ด้วยความที่ท่านเป็นพระนักพัฒนา จึงเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านเป็นอย่างมากและเป็น สถานที่ขอโชคลาภ ขอนักเสี่ยงโชคอีกด้วย

หลวงพ่อบวช ตุลายโก

หลวงพ่อบวช ตุลายโก เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง มีวิชาอาคมขลังเป็นที่เลื่องลือ วัตถุมงคลของท่านเป็นที่เสาะแสวงหาของผู้คนมากมาย โดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรกของท่าน ซึ่งได้รับการปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน

พุ่มพวง ดวงจันทร์

พุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง เจ้าของฉายา “ราชินีลูกทุ่ง” เธอเสียชีวิตลงด้วยโรคเอสแอลอี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2535 ขณะมีอายุเพียง 31 ปี ด้วยความรักและศรัทธาที่มีต่อพุ่มพวง ดวงจันทร์ ชาวบ้านจึงได้สร้างศาลพุ่มพวง ดวงจันทร์ขึ้นที่วัดทับกระดาน เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเธอ และเป็นที่เคารพสักการะของผู้คนทั่วไป

การไหว้ขอพร

ศาลพุ่มพวง ดวงจันทร์ที่วัดทับกระดาน สถานที่ขอโชคลาภ มีหุ่นพุ่มพวง ดวงจันทร์ จำนวน 5 หุ่น แต่ละหุ่นมีจุดประสงค์ในการขอพรที่แตกต่างกันไปดังนี้

• หุ่นที่ 1 สามารถขอพรได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องหวย ของแก้บนที่นิยมใช้ ได้แก่ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง กระจกแต่งหน้า หรือ จะ ขอพรให้ถูกหวยรางวัลที่ 1 ก็สามารถทำได้
• หุ่นที่ 2 สามารถขอพรเรื่องความก้าวหน้าในอาชีพการงานสายบันเทิง
• หุ่นที่ 3 สามารถขอพรเรื่องครอบครัว
• หุ่นที่ 4 สามารถขอพรเรื่องปลดหนี้
• หุ่นที่ 5 สามารถขอพรเรื่องใดก็ได้ ของแก้บนที่นิยมใช้ ได้แก่ มาลัยสีแดง หรือดอกกุหลาบสีแดง

เวลาเปิด-ปิด

วัดทับกระดานเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

วัดทับกระดานเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่มีความสำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรี นอกจากจะเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านแล้ว ยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจอีกด้วย โดยเฉพาะศาลพุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่เป็นที่เคารพสักการะของผู้คนมากมาย

ผมมีโอกาสได้ไปขอเลขเด็ดที่คำชะโนดเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินทอง จึงตัดสินใจเดินทางไปขอเลขเด็ดที่คำชะโนดตามคำแนะนำของเพื่อน ผมไปถึงคำชะโนดในช่วงเย็นของวันก่อนวันหวยออก บรรยากาศที่นั่นคึกคักมาก มีผู้คนมากมายเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อขอเลขเด็ด บางคนก็มากันเป็นครอบครัว บางคนก็มากันเป็นหมู่คณะ

ผมซื้อชุดไหว้บูชาที่วัดแล้วเข้าไปไหว้ขอพรที่ศาลปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา ขณะไหว้ผมก็ภาวนาขอให้ได้เลขเด็ดเพื่อไปเสี่ยงโชค หลังจากไหว้เสร็จ ผมก็เดินไปถ่ายรูปที่เกาะคำชะโนด ขณะเดินอยู่นั้น ผมก็สังเกตเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีใบไม้เรียงตัวเป็นรูปเลข 7 ผมจึงคิดว่าเลขนี้อาจจะเป็นเลขเด็ด จึงรีบจดใส่กระดาษไว้ วันรุ่งขึ้น ผมก็ซื้อลอตเตอรี่ตามเลขเด็ดที่ได้มา ปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 2 ได้เงินมาหลายแสนบาท ผมดีใจมากที่โชคดีถูกหวย และเชื่อว่าเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของคำชะโนด

ประสบการณ์การไปขอเลขเด็ดที่คำชะโนดครั้งนี้ทำให้ผมประทับใจมาก นอกจากจะได้เลขเด็ดแล้ว ผมยังได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ศักดิ์สิทธิ์และศรัทธาของผู้คนมากมายที่เดินทางมาขอพรที่นั่น หากใครที่กำลังมองหาเลขเด็ดอยู่ ผมแนะนำให้ลองไปขอเลขเด็ดที่คำชะโนดดู อาจจะโชคดีถูกหวยเหมือนผมก็ได้ครับ  นอกจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมแล้ว ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ประสบความสำเร็จจากการไปขอเลขเด็ดที่คำชะโนด บางคนถูกรางวัลที่ 1 บางคนถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว บางคนถูกรางวัลเลขหน้า 3 ตัว เป็นต้น จึงเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่าคำชะโนดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ดลบันดาลโชคลาภให้กับผู้ที่ไปเยือน